หลายคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ SAT น่าจะทราบดีว่าข้อสอบ SAT นั้นแบ่งออกเป็นสองพาร์ทหลักๆนั่นคือ พาร์ทภาษาอังกฤษ และ พาร์ทคณิตศาสตร์ ในส่วนของภาษาอังกฤษนั้นจะเรียกชื่อเต็มๆว่า SAT Evidence-Based Reading and Writing ซึ่งจะมุ่งเน้นการวัดทักษะการอ่าน การเขียน และการวิเคราะห์ รวมไปถึงการหาจุดผิดพลาด (Errors) ของประโยค โดยข้อสอบพาร์ทภาษาอังกฤษจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Reading Test และ Writing and Language Test นั่นเอง SAT English ออกสอบอะไรบ้าง Reading Test (52 ข้อ 65 นาที) บทความวรรณกรรมสากล 1 บทความ บทความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หรือ สังคม 2 บทความ บทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ 2 บทความ รวมเป็นทั้งหมด 4 บทความ โดยแต่ละบทความมีความยาวประมาณ 500-750 คำ ซึ่งจะมีคำถามประมาณ 10-11 ข้อต่อหนึ่งบทความ และบางบทความอาจมีแผนภูมิ หรือตารางมาด้วย แต่จะไม่มีการคำนวณมาเกี่ยวข้อง ข้อสอบในพาร์ทนี้จะวัดเกี่ยวกับหัวใจของการอ่านบทความ 2 ข้อหลักๆ คือ Commard of Evidence : ในข้อสอบ SAT จะมีการกำหนดเลขบรรทัดมาให้ เพื่อให้เราใช้อ้างอิงคำตอบว่าดูมาจากบรรทัดไหน โดยคำถามจะถามถึงความเข้า
2 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจสอบ SAT
น้องๆ หลายคนอาจจะพึ่งเคยได้ยินคำว่า “SAT” และเกิดข้อสงสัยว่าแตกต่างจากการสอบวัดระดับทางภาษาอื่นๆยังไง เราจำเป็นต้องสอบไหม? แล้วต้องสอบอะไรบ้าง? ต้องติวนานแค่ไหน? วันนี้พี่ๆ Highskill จะพาทุกคนมาเจาะลึกสิ่งที่ควรรู้ก่อนการสอบ SAT ไปดูกันเลย! SAT เป็นข้อสอบมาตรฐานสากลที่ถูกยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการยื่นสมัครสอบในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศไทย เนื่องจากได้รับการพิสูจน์ว่ามีความน่าเชื่อถือ และยังเป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความถนัดทางคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษในตัวเดียวกัน ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดสอบคือ College Board โดยจะจัดสอบเพียงปีละ 4 ครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วน้องๆคนไหนที่จำเป็นต้องใช้คะแนนสอบ SATต้องวางแผนการติวให้ดีๆ เพราะถ้าพลาดแล้วพลาดเลย! SAT สอบอะไรบ้าง? ข้อสอบ SAT จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Evidence-Based Reading and Writing (คะแนนเต็ม 800 คะแนน) ประกอบไปด้วย reading 52 ข้อ และ writing and language 44 ข้อ จากทั้งหมด 4 บทความ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที Mathematics (คะ
เรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัวดีอย่างไร?
ในปัจจุบันเรามีทางเลือกในการเรียนมากมายไม่ว่าจะเป็น เรียนออนไลน์ เรียนกับสถาบันสอนพิเศษ เรียนฟรีผ่านยูทูป และเรียนกับติวเตอร์ตัวต่อตัว แต่สำหรับวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องอาศัยทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน การเรียนตัวต่อตัวกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเราสามารถสื่อสาร โต้ตอบกับผู้สอนได้ทันทีในขณะที่เรียน เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องกังวลไปว่า เรียนไปแล้วจะไม่ได้นำไปใช้จริง เพราะติวเตอร์จะเปรียบเสมือนเพื่อนคนสนิทที่จะคอยตอบคำถาม ไขข้อสงสัยของเราตลอดการเรียน การเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัวจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและกดดันน้อยกว่าการเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะผู้สอนจะทราบดีว่าพื้นฐานของเราอยู่แค่ไหน และสามารถพัฒนาตรงจุดไหนได้บ้าง สืบเนื่องจากผู้เรียนแต่ละคนมีองค์ความรู้และทักษะทางภาษาไม่เท่ากัน หากมีติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่คอยช่วยวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาก็จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง มากไปกว่านั้นการเรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์ตัวต่อตัว ยังให้อิสระแก่ผู้เรียนมากกว่าการเรียนแบบก
แนะนำที่เรียนพิเศษเรียนกับติวเตอร์ตัวต่อตัวภาษาอังกฤษ
ในยุคที่การศึกษามีการแข่งขันสูงขึ้น มองไปทางไหนก็เห็นสถาบันกวดวิชาเต็มไปหมด จนบางครั้งทำให้เราเกิดความสับสนว่าจะเรียนที่ไหนดี บางที่เคยไปเรียนตามเพื่อนแล้วไม่เข้าใจ เพราะวิธีการจัดการเรียนการสอนไม่ได้เข้ากับทุกคน จนกระทั่งได้เจอวิธีการเรียนที่เข้ากับตัวเองมากที่สุดคือการเรียนกับติวเตอร์ตัวต่อตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาภาษาอังกฤษที่ต้องอาศัยทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ดังนั้นการเรียนตัวต่อตัวกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดที่สุด เราจึงได้รวบรวมสถาบันสอนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวมาฝากทุกคนกัน Highskill ติวเตอร์ตัวต่อตัว สถาบันที่รวบรวมติวเตอร์ภาษาอังกฤษตัวต่อตัวจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งติวเตอร์แต่ละคนได้ถูกคัดเลือกและตรวจสอบความสามารถคุณภาพของติวเตอร์อยู่เสมอ เรายินดีให้ผู้เรียนสามารถจัดสรรเวลาเรียน และพูดคุยกับติวเตอร์ได้แบบตัวต่อตัว นอกจากนี้เรายังได้เอกสารประกอบการเรียนและแนวข้อสอบเตรียมพร้อมทุกสนาม เรียกได้ว่าครบทุกวงจรของการเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว Globish สถาบันที่รวบรวมคอร์สเรียนตัวต่อตัวกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษ โดยเน้นไปที่หลักสูตร การเรียนภาษาอังกฤษ
เรียนภาษาอังกฤษในระยะเวลาจำกัดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ?
ภาษาอังกฤษถือเป็นวิชาที่มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะสอบเข้าที่ไหนก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการยื่นสมัครทั้งนั้น ไม่ว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งสอบเพื่อวัดระดับภาษาในการยื่นสมัครงาน แต่จะมีวิธีไหนมั้ย ที่จะทำให้การเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษของเรานั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะเวลาจำกัด ไปดูกันเลย! เรียนตัวต่อตัวกับติวเตอร์ภาษาอังกฤษ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิธีการเรียนรู้ที่เร็วที่สุดคือการหาติวเตอร์ภาษาอังกฤษตัวต่อตัวไว้คอยช่วยสอนและตอบคำถามเมื่อเรามีข้อสงสัย เพราะติวเตอร์ภาษาอังกฤษจะคอยสอนประกบและดูแลเราอย่างใกล้ชิดซึ่งจะทำให้การเรียนรู้ของเราเกิดความลื่นไหล เนื่องจากเราจะรู้สึกสบายใจและกดดันน้อยกว่าการเรียนเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อาจจะมีพื้นฐานไม่แน่น หากไปเรียนแบบกลุ่มก็จะไม่กล้าพูดคุยถามตอบสิ่งที่สงสัย เพราะกลัวจะอายเพื่อน ดังนั้นติวเตอร์ภาษาอังกฤษตัวต่อตัวจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษในช่วงระยะเวลาจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด อีกหนึ่งวิธีที่สามารถปรับใช้ได้ง่ายๆในชีวิตประจำวันคือ การสร้างสภาพแวดล้
5 เทคนิคการท่องคำศัพท์ให้จำได้แม่นชัวร์ๆ
5 วิธีการท่องศัพท์แนวใหม่ที่ใช้ได้ผลจริงมาแล้วกับน้องๆที่เรียนพิเศษกับเรา จากเด็กที่จำคำศัพท์ไม่ได้เลยจนกลายมาเป็นเด็กเกรด 4 วิชาภาษาอังกฤษในวันนี้